Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the pubnews domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /www/wwwroottha/38.181.62.209/wp-includes/functions.php on line 6121

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the pubnews-plus domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /www/wwwroottha/38.181.62.209/wp-includes/functions.php on line 6121
KUBET – 10 แนวทางดูแลผู้สูงอายุ อยู่ที่บ้าน ต้องทำอะไรบ้าง? – KUBET

    KUBET – 10 แนวทางดูแลผู้สูงอายุ อยู่ที่บ้าน ต้องทำอะไรบ้าง?

    10 แนวทางดูแลผู้สูงอายุ อยู่ที่บ้าน ต้องทำอะไรบ้าง?

    10 แนวทางดูแลผู้สูงอายุ อยู่ที่บ้าน ต้องทำอะไรบ้าง? | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล

    ตอนนี้ถ้าจะพูดว่าเป็นสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากต้องดูแล ก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วค่ะ เพราะผู้เขียนเชื่อว่าเราหลายคนก็คงได้สังเกตเห็นแล้วว่า ในชุมชนของเราเอง โดยเริ่มจากที่บ้านของเราเองด้วย ที่ก็จะมีคนในวัยผู้สูงอายุให้เราต้องช่วยกันดูแลแล้วนะคะ โดยสถานการณ์นี้ผู้เขียนก็เป็นค่ะ โดยในช่วงนี้มีโอกาสได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ในการดูแลพ่อกับแม่ที่อายุมากแล้ว

    ที่ต่อจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของน้องสาวคนที่สองได้ดูแลต่อเนื่องต่อไปค่ะ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงที่ผู้เขียนได้ทำมาจนถึงตอนนี้ เลยอยากมาส่งต่อแนวทางที่เราสามารถทำได้ที่บ้าน เพื่อส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจของผู้สูงอายุค่ะ ที่รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพและนำไปทำตามได้อย่างแน่นอน ถ้าอยากรู้แล้วว่าเราต้องทำอะไรบ้าง งั้นเรามาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า กับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ค่ะ

    1. กระตุ้นการทำงานของสมอง 

    คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น นอกจากการดูแลสุขภาพกายและจิตใจแล้ว การกระตุ้นการทำงานของสมองก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมถอยของสติปัญญา คงความสามารถในการคิด ความจำ และการเรียนรู้ การทำกิจกรรมที่ท้าทายความคิด เช่น การเล่นเกมฝึกสมอง การอ่านหนังสือ การสนทนา การทำงานอดิเรกที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือแม้แต่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ล้วนเป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน

    การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม หรือมีส่วนร่วมในครอบครัว ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและลดความรู้สึกโดดเดี่ยวได้อีกด้วย ดังนั้นการใส่ใจดูแลและกระตุ้นสมองของผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พวกท่านมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ

    2. ส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย 

    การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว การส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ป้องกันการหกล้ม ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ

    การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ อาจเป็นการเดินเบาๆ การรำไทเก๊ก การทำงานบ้าน หรือกิจกรรมที่ชอบและสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ควรเริ่มต้นจากกิจกรรมเบาๆ และค่อยๆ เพิ่มระดับความแรงตามความสามารถ และการมีส่วนร่วมของสมาชิกในครอบครัวในการสนับสนุนและให้กำลังใจ จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสนุกและมีแรงจูงใจในการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อผู้สูงอายุค่ะ

    3. ดูแลเรื่องการพักผ่อนและการนอนหลับ

    การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้รับการฟื้นฟู ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ และส่งผลต่อความจำ อารมณ์ และการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับ เช่น ห้องที่เงียบสงบ มืดสนิท และมีอุณหภูมิที่สบาย รวมถึงการสร้างกิจวัตรประจำวันก่อนนอนที่เป็นเวลา เช่น การอ่านหนังสือ การฟังเพลงเบาๆ หรือการดื่มนมอุ่นๆ สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุนอนหลับได้ง่ายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน และสังเกตสัญญาณของการนอนหลับที่ผิดปกติ หากพบปัญหาควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสม 

    สิ่งแวดล้อม

    4. สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

    การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยภายในบ้าน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายเนื่องจากความเสื่อมถอยของร่างกาย การปรับปรุงบ้านให้เหมาะสม เช่น การติดตั้งราวจับในห้องน้ำและตามทางเดิน การจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อป้องกันการสะดุดล้ม การมีแสงสว่างที่เพียงพอในทุกพื้นที่

    โดยการใช้พื้นกันลื่น และการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยพร้อมใช้งาน ล้วนเป็นแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก การใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระและปลอดภัยยิ่งขึ้น ที่ทำให้ทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแลมีความสบายใจและลดความกังวลลงได้มากค่ะ

    5. ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

    รู้ไหมคะว่า การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้สูงอายุที่บ้าน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสุขภาพที่ดีและป้องกันการติดเชื้อต่างๆ เนื่องจากสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป อาจทำให้การดูแลสุขอนามัยด้วยตนเองเป็นไปได้ยากลำบาก การช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุรักษาความสะอาดร่างกาย เช่น การอาบน้ำ การแปรงฟัน การดูแลเล็บ การทำความสะอาดช่องปาก และการดูแลผิวพรรณอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคผิวหนัง การติดเชื้อ และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

    นอกจากนี้การดูแลความสะอาดของเสื้อผ้า เครื่องนอน และสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สูงอายุ ก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค การใส่ใจและให้ความช่วยเหลือในเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความรู้สึกที่ดีต่อตนเองของผู้สูงอายุ และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมค่ะ

    สบู่ก้อน

    6. สังเกตและติดตามอย่างใกล้ชิด 

    การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านอย่างใกล้ชิดด้วยการสังเกตและติดตามอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การใส่ใจสังเกตอาการผิดปกติเล็กน้อย เช่น การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม ความอยากอาหาร การนอนหลับ การเคลื่อนไหว หรือการแสดงออกทางอารมณ์ จะช่วยให้สามารถตรวจพบปัญหาด้านสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และนำไปสู่การดูแลรักษาที่ทันท่วงที

    การติดตามสัญญาณชีพจร ความดันโลหิต ระดับน้ำตาล หรืออาการเจ็บป่วยเรื้อรังตามคำแนะนำของแพทย์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การบันทึกข้อมูลและแจ้งให้แพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะช่วยให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการสังเกตและติดตามอย่างใกล้ชิดแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความห่วงใย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุค่ะ

    7.  จัดการเรื่องการรักษา 

    การจัดการเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุที่บ้าน เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพให้คงที่และป้องกันภาวะแทรกซ้อน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ต้องรับประทาน และตารางการนัดหมายแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น ควรจัดเตรียมยาให้พร้อม จัดเก็บอย่างถูกวิธี และดูแลให้ผู้สูงอายุรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด การติดตามอาการและผลข้างเคียงของยา การสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และการพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ

    นอกจากนี้การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อฉุกเฉินที่ชัดเจน และการทราบขั้นตอนการขอความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว ก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรื่องการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการใส่ใจและจัดการเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างรอบคอบ จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่เหมาะสมและทันท่วงที ส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

    ผู้สูงอายุ

    8. ให้ความสำคัญกับการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์ 

    การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านให้มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกเหนือจากการดูแลด้านร่างกายและจิตใจแล้ว การให้ความสำคัญกับการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามค่ะการที่ผู้สูงอายุได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม หรือพบปะผู้คน จะช่วยลดความรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี 

    การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้ติดต่อกับเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง หรือเข้าร่วมชมรมต่างๆ ที่สนใจ จะช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและมีคุณค่า การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง รักษาความกระตือรือร้น และเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน การใส่ใจและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสทางสังคมอย่างเหมาะสม จะช่วยให้พวกเขามีชีวิตชีวาและมีความสุขในวัยเกษียณมากยิ่งขึ้นค่ะ

    9. สร้างความเข้าใจและความอดทน

    หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านต้องอาศัยความเข้าใจและความอดทนอย่างสูงจากผู้ดูแล เนื่องจากผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมหรือความต้องการที่แตกต่างไปจากเดิม การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เช่น ความเสื่อมถอยของสุขภาพ การสูญเสียหรือความรู้สึกไม่มั่นคง จะช่วยให้ผู้ดูแลสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสมและเห็นอกเห็นใจ 

    การแสดงความอดทนต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น การรับฟังอย่างตั้งใจ และการให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและไว้วางใจในบ้าน การตระหนักว่าการดูแลผู้สูงอายุเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม รวมถึงการดูแลสุขภาพจิตใจของผู้ดูแลเอง ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การมีความเข้าใจและความอดทนจะช่วยให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นไปอย่างราบรื่นและส่งผลดีต่อทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแล

    ผู้สูงอายุ

    10. วางแผนการดูแลระยะยาว 

    การวางแผนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะ เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้สูงอายุเมื่อเวลาผ่านไป การประเมินสภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ ความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง และความต้องการของผู้สูงอายุในปัจจุบันรวมถึงการคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลที่ครอบคลุม ทั้งเรื่องสุขภาพการเงิน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และการสนับสนุนทางสังคม 

    การพูดคุยและทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับความต้องการและความคาดหวังในการดูแลระยะยาว จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การเตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย การจัดหาผู้ดูแลเพิ่มเติมหากจำเป็น และการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ จะช่วยให้การดูแลในระยะยาวเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน ซึ่งการวางแผนล่วงหน้าด้วยความรอบคอบ จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ดีที่สุดและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในระยะยาวค่ะ

    และทั้งหมดนั้นคือแนวทางว่าต้องทำอะไรบ้าง เมื่อเรามีผู้สูงอายุที่ต้องดูแลอยู่ที่บ้านค่ะ โดยสำหรับผู้เขียนแล้วนั้น มีพ่อกับแม่ซึ่งอยู่ในวัยผู้สูงอายุแล้ว แต่ว่าตอนนี้ท่านทั้งสองยังสามารถเดินเหินได้ตามปกติ สามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองได้ ซึ่งผู้เขียนจะทำในส่วนของช่วยจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ มีห้องน้ำที่เดินเข้าไปได้สะดวก แสงสว่างมีเพียงพอ เวลามีวันสำคัญต่างๆ ลูกหลานก็มักจะพากันไปทำอาหารให้รับประทาน ว่างๆ พอเป็นไปได้ก็จะพาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตามโอกาสค่ะ ในส่วนของพ่อของผู้เขียนมีโรคประจำตัวเป็นโรคเกาต์ ผู้เขียนจะย้ำเตือนเรื่องการไปตรวจตามนัด และให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ต้องงด และอื่นๆ ที่ต้องทำค่ะ 

    แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะตอนนี้ได้ดูแลผู้สูงอายุบ้างไหม ยังไงนั้นก็ลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ และนำข้อมูลในนี้ไปเป็นแนวทางสำหรับดูแลผู้สูงอายุกันค่ะ ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ

    ขอบคุณเครดิตภาพประกอบบทความ


    เกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล

    ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล

    • จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
    • มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล 

    บทความอื่นที่เกี่ยวข้องโดยผู้เขียน


    คนเสียสติ

    คนเสียสติ สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ไหม?

    ผู้สูงอายุ

    วิธีคลายความเหนื่อยล้า สำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ

    ผู้สูงอายุ

    9 วิธีจัดบ้านให้เหมาะสม ดีกับผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ

     

    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

    Back To Top